
นายฮ้อย
ผู้ที่เป็นหัวหน้าในการค้าขาย และเป็นผู้ที่รู้จักเส้นทางการค้าขายเป็นอย่างดี เป็นคนที่น่าเกรงขาม ชาวบ้านให้ความนับถือ และผู้ชายอีสานในสมัยก่อน ส่วนใหญ่จะมีอาชีพค้าขายวัวควาย โดยเรียกคนเหล่านี้ว่า “นายฮ้อย” หรือหัวหน้าคุมกองทัพวัวควาย (ในภาคเหนือจะเรียกว่า พ่อค้าวัวต่างม้าต่าง) เข้าไปขายในภาคกลางหรือเมืองล่าง (กรุงเทพ/ศูนย์กลางอำนาจ) โดยการเดินทางในเเต่ละครั้ง จะกินเวลานานแรมเดือนหรือหลายเดือน ซึ่งการค้าขายของนายฮ้อย จะเรียกชื่อ “นายฮ้อย” ตามสิ่งที่ทำการค้าขาย เช่น ถ้าค้าขายกระบือ ก็จะเรียกว่า “นายฮ้อยกระบือ” ถ้าค้าเกลือก็จะเรียก “นายฮ้อยเกลือ” ค้าหมูก็จะเรียกว่า “นายฮ้อยหมู” เป็นต้น
เส้นทางการค้าของนายฮ้อย มักจะเป็นการเดินทางไปค้าขายยังต่างแดน ทั้งทางบกและทางน้ำ อีกทั้งในภาคอีสานขณะนั้น สภาพเศรษฐกิจยังเป็นแบบเลี้ยงตัวเอง ปริมาณการผลิตยังไม่มาก และลู่ทางในการหาเงินก็มีน้อย จึงทำให้ชาวอีสานบางส่วนลงมาทำนารับจ้างในแถบภาคกลางปีละหลายพันคน และในการเดินทางเพื่อที่จะไปรับจ้างทำนา ก็จะมีผู้ที่นำทางลงไปยังเมืองล่าง ซึ่งก็คือนายฮ้อย เพราะการคมนาคมในช่วงนั้นยังไม่ถูกพัฒนาและยังไม่มีเส้นทางรถไฟ นายฮ้อยจึงต้องพาแรงงานรับจ้างเหล่านี้ ลงไปเมืองล่างพร้อมกับฝูงวัวควายที่ตนต้อนลงไปขายด้วย
ย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้นของเรื่องราว
อาชีพนายฮ้อยนั้นเริ่มมีมาตั้งแต่หลังจาก ปี พ.ศ. 2398 ในช่วงที่รัฐบาลได้ทำสนธิสัญญาทางการค้ากับประเทศอังกฤษ ภายหลังสนธิสัญญาเบาว์ริ่ง เศรษฐกิจไทยได้เปลี่ยนจากระบบแบบเลี้ยงตัวเองหรือในความหมายก็คือ จากระบบการค้าภายในประเทศที่อยู่ในขอบเขตที่แคบ และส่วนใหญ่เป็นการแลกสิ่งของต่อสิ่งของและการใช้แรงงานก็ยังไม่แพร่หลาย กลายมาเป็นระบบเศรษฐกิจเพื่อการค้าและเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ซื้อสามารถพบกับผู้ขายได้โดยไม่ต้องผ่านรัฐส่วนกลาง ทำให้รูปแบบการผลิตสินค้าเปลี่ยนไปเป็นการผลิตเพื่อการค้าในประเทศและการส่งออกมากขึ้น เมื่อระบบการผลิตเพิ่มขึ้นก็ทำให้ความต้องการแรงงานเพิ่มขึ้น สภาพเศรษฐกิจในส่วนกลางขยายตัวอย่างกว้างขวาง และมีการลงทุนมากยื่งขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้ ได้ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคตามมา
การที่นายฮ้อยได้ต้อนวัวควายไปค้าขายที่ภาคกลางหรือเมืองล่างนั้น จึงทำให้นายฮ้อยกลายเป็นกลุ่มคนที่มีบทบาทในการนำเอาวัฒนธรรมจากต่างถิ่นต่างแดนเข้ามาเผยแพร่ จะเห็นได้จากการที่นายฮ้อยได้นำเอาวัฒนธรรมต่าง ๆ จากภาคกลางเข้ามา เช่น ภาษาพูด ค่านิยม แฟชั่น หรือแนวคิดใหม่ ๆ ทำให้วัฒนธรรมเหล่านี้ได้แพร่ขยายเข้าสู่ภาคอีสาน และกลายเป็นการแลกเปลี่ยนทั้งทางภาคสังคม วัฒนธรรม และเศรษฐกิจอย่างเด่นชัดในเวลาต่อมา แต่บทบาทของนายฮ้อยก็ต้องเสื่อมถอยลง เมื่อการคมนาคมมีความสะดวกสบายและทันสมัยมากขึ้น ผู้คนเริ่มนิยมทำการค้าขายโดยใช้รถไฟเป็นหลัก เพราะมีความสะดวกสบาย ประหยัดเวลาในการขนส่ง แทนที่จะเดินเป็นคาราวานต้อนวัวควายไปขายเป็นแรมเดือน ก็เปลี่ยนมาเป็นการต้อนขึ้นรถไฟไปในที่สุด

เราได้นำพาทุกท่านเข้าไปเรียนรู้ในประวัติศาสตร์ของบ้านเมืองเก่า ชุมชนแรกเริ่มแรกเมื่อครั้งก่อตั้งเมือง จนล่วงเลยผ่านการอพยพเคลื่อนย้ายบ้านเมืองมาหลายต่อหลายครั้ง และกลายมาเป็นจังหวัดขอนแก่นในปัจจุบัน
มาในปีนี้ เราตั้งใจจะนำพาทุกท่านเดินทางไปตามเส้นทางประวัติศาสตร์ของการเคลื่อนตัวขยายเมืองขอนแก่น เข้าไปมองภาพขยายส่วนของการพัฒนาก่อร่างสร้างบ้านเมืองในด้านการค้าและเศรษฐกิจ ทั้งการค้าภายในและการค้าข้ามแดน อันเป็นปัจจัยสำคัญที่มีส่วนในการสร้างบ้านแปลงเมือง ผ่านมุมมองทางด้านศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยที่จะเป็นตัวช่วยกระตุ้นจินตนาการเปิดมุมมองของผู้ชม รวมถึงชุมชนในพื้นที่ให้เกิดความเข้าใจและสนใจ เกิดการมีส่วนร่วมช่วยกันขบคิดอย่างสร้างสรรค์ และเข้าใจมิติมุมมองของเรื่องราวต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น เพื่อประโยชน์ในการนำมาร่วมกันพัฒนาบ้านเมืองหรือพื้นถิ่นที่ของตนเองต่อไปในอนาคต
เทศกาล ศิลปะ “แก่น เก๋า เก๋า” 2023 S.O.E “We Trade Everything” ต้องการนำเสนอการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมผ่านกระบวนการทำงานศิลปะร่วมสมัยเชื่อมโยงเกี่ยวกับการค้าข้ามแดน โดยให้ศิลปินเป็นเสมือนภาพตัวแทน นายฮ้อย ในการทำงานศิลปะบนพื้นที่ต่าง ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับกระบวนการทางการค้าและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ โดยจำลองว่าพื้นที่ขอนแก่นนั้นเป็นตลาดค้าวัวควายที่นายฮ้อยในท้องถิ่นและต่างแดน ต่างเดินทางเข้ามาโดยมีจุดเชื่อมโยงเดียวร่วมกันคือการแลกเปลี่ยนเทรดสินค้า(วัฒนธรรม)ร่วมกัน เพื่อบอกเล่าเรื่องราวแชร์ประสบการณ์ของแต่ละกลุ่มนายฮ้อย โดยมุ่งหวังนำศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยมามีส่วนช่วยให้ตื่นตัว เกิดการขับเคลื่อนทางวัฒนธรรมร่วมสมัยให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างเป็นพลวัฒและประโยชน์ต่อสังคม
เทศกาลศิลปะ“แก่น เก่า เก๋า” 2021 S.O.E Our City Old Town
Anurak Tanyapalit Tidarat Nakbutt Tada Heagsakul
Attitayaporn Seanpo Sureena Chema Chompunuch Putta
Phana Petsamrit Wiroon Janthong Thamrujah Thammasaroath
Wanranya Thongbor Salwanee Hajisamea Walai Buppha
Anuwat Apimukmongkon Suhaidee Sata Chindanai Phuankam
E-suwan Chali Nitipong Nikaji Pongton Kitpitak
Jamilah Haji Bussaporn Thongchai Gobpong Khanthapan
Jehabdulloh Jehsorhoh Wilawan Wiangthong Pongsaton Najai
Korakot Sangnoy Awika Samukrsaman Veerayut Nanglae
Muhammadsuriyee Masu Prapassorn Konmuang Puvamin Indee
Muhammadtoha Hajiyusof Chayarat Ritaramb Nontanan Intarajakra
Nordiana Beehing Decha Deewiseth Sahapon Chootinan
Nuratna Hawae Patcharapa Inchang Kisanaphol Wattranavinyoo
Pichet Piaklin Sareena Sattapon Tipawan Wannamahin
Ruangsak Anuwatwimon Piasn Ampim Voranon Suetrong
Pytt Saisangthong Kantapong Tesnes Tanaphat Kongnam
Puttita Karunamit Afinee Jehda-oh Jamilah Daud